นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (personal data POLICY)

บริษัท ไทยแฮนด์ มาสสาจ จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า ‘บริษัท/เรา’) เป็นผู้ให้บริการเว็บไซต์ https://thaihandmassage.com รวมไปถึงแอปพลิเคชัน ThaiHand Massage and Wellness และช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ของบริษัท ในการเป็นสื่อกลางในการจองบริการนวดผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (รวมเรียกว่า ‘บริการ’) บริษัทขอเรียนให้ท่านทราบว่า บริษัทเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานและผู้ให้บริการนวด และตระหนักดีว่าข้อมูลส่วนบุคคลของทุกท่านมีความสำคัญที่จะต้องได้รับความคุ้มครองภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เพื่อชี้แจงรายละเอียดและ วิธีการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลในทีนี้ หมายถึงข้อมูลต่างๆ ของท่านในการทำการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://thaihandmassage.com รวมไปถึงแอปพลิเคชัน ThaiHand Massage and Wellness และช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ของบริษัท การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท คุกกี้ และข้อมูลการทำรายการ รวมทั้งการเข้าทำสัญญาบริการกับบริษัทสำหรับผู้ให้บริการนวด ที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Policy) นี้อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยบริษัทมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะ ‘ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล’ ส่วนท่านมีฐานะเป็น ‘เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล’ ตามกฎหมายนี้

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของบริษัทและการใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทเท่านั้น หากท่านได้กด link ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น หรือเข้าถึงและใช้งานเว็บไซต์อื่น (แม้จะผ่านช่องทางในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทก็ตาม) ท่านจะต้องถูกกำกับและปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้นๆ แทน

 

ข้อ 1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่ ข้อมูลที่ท่านให้ไว้โดยตรงจากการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://thaihandmassage.com รวมไปถึงแอปพลิเคชัน Thaihand และช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ของบริษัท การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท และข้อมูลการทำรายการของผู้ใช้ เพื่อรับบริการ รวมทั้งการเข้าทำสัญญาบริการกับบริษัทสำหรับผู้ให้บริการนวด 

ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวรวมถึง 

  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เพศ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง ภาพถ่ายโปรไฟล์
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์ ชื่อผู้ใช้งาน social media platform
  • ข้อมูลการชำระเงิน เช่น ข้อมูลการเรียกเก็บเงินและบัตรเครดิตของผู้ใช้ ข้อมูลรายละเอียดบัญชีธนาคาร (ชื่อเจ้าของบัญชี หมายเลขบัญชี ชื่อธนาคาร)
  • ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น ชื่ออุปกรณ์ที่ใช้งาน / browser ที่ใช้งาน IP Address MAC Address Cookie ID
  • ข้อมูลอื่นๆ เช่น การใช้งานเว็บไซต์ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • ข้อมูลของผู้ให้บริการนวดในการเข้าทำสัญญากับบริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด เพศ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง ภาพถ่าย ชื่อผู้ใช้งาน social media platform ชื่อธุรกิจ ข้อมูลใบอนุญาตประกอบกิจการสถานที่ทำงาน ชื่อนาม สกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของกิจการ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์ 

ในกรณีที่ท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านจะต้องดำเนินการแจ้งต่อบริษัท เพื่อให้บริษัทปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้อง ทันสมัย สมบูรณ์มากที่สุด หากท่านไม่แจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อบริษัท ถือว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทควบคุมดูแลเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย และสมบูรณ์ โดยท่านได้สละสิทธิในการโต้แย้งหรือดำเนินการทางกฎหมายต่อบริษัทต่อความไม่ถูกต้องสมบูรณ์ของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

 

ข้อ 2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูล

บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านเพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของบริษัทได้ตรงตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการของบริษัท และเพื่อการอื่นที่จำเป็นภายใต้กฎหมาย ดังต่อไปนี้ 

  • เพื่อให้บริการหรือปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาที่บริษัทมีต่อผู้ใช้และผู้ให้บริการนวด
  • เพื่อตอบสนองคำร้องขอของผู้ใช้ สื่อสารกับผู้ใช้ และให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค
  • เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้และผู้ให้บริการนวด และป้องการสแปม หรือการกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือผิดกฎหมาย
  • เพื่อป้องกัน ตรวจจับ หลีกเลี่ยง และตรวจสอบการฉ้อโกง การละเมิดความปลอดภัย หรือการกระทำอื่น ๆ ที่อาจเป็นการกระทำที่ต้องห้าม หรือผิดกฎหมาย
  • เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ที่บริษัทมีต่อหน่วยงานที่มีอำนาจควบคุม หน่วยงานด้านภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือภาระผูกพันตามกฎหมายของบริษัท
  • เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น หรือของนิติบุคคลอื่น
  • เพื่อดำเนินการตามที่จำเป็นในการทำหน้าที่เพื่อสาธารณประโยชน์ให้สำเร็จลุล่วง หรือเป็นการจำเป็นเพื่อใช้อำนาจทางกฎหมายที่บริษัทได้รับสิทธิในการดำเนินการ

นอกจากนี้ บริษัทยังใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากผู้ใช้ หรือข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์จากการใช้บริการตามที่ผู้ใช้เลือกให้ความยินยอม ดังต่อไปนี้ 

  • เพื่อปรับปรุงบริการของบริษัท และตอบสนองต่อความต้องการ และความพึงพอใจของผู้ใช้ รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการค้นคว้า และการวิเคราะห์อื่นๆ โดยการศึกษาและทำความเข้าใจการเข้าถึงบริการและใช้บริการของบริษัท
  • เพื่อเสนอและมอบสินค้า บริการ ส่วนลด หรือโปรโมชั่นจากบริษัท และ/หรือคู่ค้าของบริษัทแก่ผู้ใช้
  • เพื่อวิเคราะห์ ทำการตลาด และทำการโฆษณาตามกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงปรับปรุงการให้บริการและข้อเสนอส่งเสริมการขายให้ทันสมัยยิ่งขึ้น

บริษัทจะไม่กระทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์อย่างอื่น ที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับท่านไว้ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวม เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากท่าน (โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ เพื่อขอความยินยอม และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน) หรือเป็นกรณีที่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้กระทำได้

 

ข้อ 3. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดี โดยจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมและเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ตลอดจนกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล การสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข การนำข้อมูลไปใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และในกรณีที่บริษัทต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลหรือนิติบุคคลอื่น บริษัทจะดำเนินการเพื่อป้องกันมิให้ผู้นั้นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ

บริษัทจะทำการขอความยินยอมจากท่านก่อนทำการเก็บรวบรวมข้อมูล ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน โดยการขอความยินยอมบริษัทจะทำโดยชัดแจ้ง เป็นหนังสือหรือทำโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยท่านมีความเป็นอิสระในการให้ความยินยอมในการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะไม่กำหนดเงื่อนไขในการให้ความยินยอมเพื่อให้เข้าถึงการรับบริการ หรือเข้าทำสัญญากับบริษัท หากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่มีความจำเป็นหรือเกี่ยวข้องสำหรับการเข้าทำสัญญาหรือการรับบริการนั้น หากมีความจำเป็นที่ท่านจะต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อต้องเข้าทำสัญญากับบริษัท บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบก่อน และจะแจ้งผลกระทบหากท่านไม่ยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท

ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น

บริษัทจะดำเนินการให้ข้อมูลของท่านนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

 

ข้อ 4. การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บรวบรวมส่วนบุคคล บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่านก่อน เว้นแต่กรณีที่กฎหมายให้อำนาจไว้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านไว้เท่าที่จำเป็น เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการให้บริการของบริษัท และ/หรือ ภาระผูกพันต่างๆ เท่าที่จำเป็นตามสมควรตามวัตถุประสงค์ที่ได้ชี้แจงไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้

บริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งที่มาอื่นที่ไม่ใช่ของท่านโดยตรง เว้นแต่กรณีที่บริษัทได้แจ้งท่านถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งที่มาอื่นภายใน 30 วัน และได้รับความยินยอมจากท่านแล้ว หรือเป็นการเก็บรวบรวมที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือมาตรา 26

บริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อท่านในทำนองเดียวกันตามประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน เว้นแต่เป็นกรณีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บัญญัติให้กระทำได้ 

การใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะไม่ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านก่อนที่จะได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่เป็นข้อมูลของท่านที่เก็บรวบรวมได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือมาตรา 26

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทผู้ร่วมวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ การทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ การบริหารกิจการ และการส่งเสริมการตลาด เช่น การประชาสัมพันธ์กิจกรรม ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ ให้แก่ท่าน

ในกรณีที่บริษัท ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม บริษัทจะบันทึกการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์

ในกรณีที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ให้บริการ ผู้รับจ้างตามสัญญา หรือตัวแทนที่ปฏิบัติหน้าที่ในนามของบริษัททั้งในและต่างประเทศ บุคคลดังกล่าวจะต้องมีมาตรฐานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามหลักเกณฑ์การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด 

 

ข้อ 5. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่บริษัทกำหนดไว้ก่อนหรือในขณะหรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต 

5.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่กระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบตามนโยบายนี้

5.2 สิทธิในการขอเข้าถึง ขอรับข้อมูลหรือสำเนาข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง หรือรับ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเองที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร 

5.3 สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ ในกรณีที่กฎหมายให้อำนาจบริษัทในการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านก่อน

5.4 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากบริษัทไม่ดำเนินการตามคำร้องขอ บริษัทจะบันทึกคำร้องขอของท่านพร้อมด้วยเหตุผลไว้เป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์

5.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของได้ ดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลของท่านไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน 
  2. เมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมและบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ 
  3. เมื่อท่านใช้สิทธิคัดค้านตาม ข้อ 5.3 และบริษัทไม่อาจปฏิเสธคำขอได้ตามกฎหมาย
  4. เมื่อข้อมูลของท่านได้ถูกเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

5.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้

  1. เมื่อบริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอ
  2. เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย แต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน
  3. เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  4. เมื่อบริษัทอยู่ระหว่างพิสูจน์คำขอคัดค้านของท่านตามข้อ 5.3 เพื่อพิจารณาว่าบริษัทมีอำนาจตามกฎหมายให้ปฏิเสธคำคัดค้านของท่านได้หรือไม่ 

5.7 สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

5.9 การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล การใช้สิทธิละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

 

ข้อ 7. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการให้บริการ การดำเนินงานของบริษัท หรือเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน โดยบริษัทจะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงนโยบายให้ทราบก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลง หรืออาจส่งประกาศให้ท่านทราบโดยตรง

 

ข้อ 8. ช่องทางติดต่อ 

หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ผ่านช่องทางดังนี้

  • อีเมล: thaihand.m@gmail.com
  • โทร: 0813582474
  • สถานที่ติดต่อ: บริษัท ไทยแฮนด์ มาสสาจ จำกัด
    1055/723 สเตททาวเวอร์ ถนนสีลม

แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 

 

เมื่อท่านได้ตกลงยอมรับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทจะถือว่าท่านยอมรับว่าการใช้บริการใดๆ ของบริษัทถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการทั้งหมด และการตกลงยอมรับดังกล่าวมีผลสมบูรณ์